วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2556

ผิวแพ้ง่ายต้องใส่ใจเป็นพิเศษ


 ในช่วงชีวิตหนึ่งของสาวๆ ย่อมรักสวยรักงามเป็นธรรมดา จึงมีสาว ๆ หลาย ๆ คนที่มักหาเครื่องสำอางหรือทรีทเม้นท์บำรุงผิวหลากหลายมาลอง ซึ่งหารู้ไม่ว่าวันหนึ่งสาว ๆ อาจพบว่า ผิวหน้าของเรากลายเป็นผิวแพ้ง่ายไปซะแล้วก็ได้ บางทีถึงกับใช้เครื่องสำอางอะไรก็แพ้ แม้แต่เครื่องสำอางที่เคยใช้แล้วไม่มีปัญหาก็กลับมาแพ้ได้
สาเหตุของผิวแพ้ง่าย

ความสำคัญของผิวไม่ใช่เป็นเรื่องความสวยความงามเพียงอย่างเดียวเท่านั้นนะคะ แท้จริงแล้วผิวมีความสำคัญต่อร่างกายมาก เปรียบเสมือนกำแพงป้องกันร่างกายของเราจากสิ่งแวดล้อมที่เป็นอันตรายต่าง ๆ ภายนอก ผิวก็เหมือนกับอวัยวะส่วนอื่น ๆ ของร่างกายค่ะ คือมีระบบประสาท ระบบสารสื่อประสาท ระบบภูมิคุ้มกัน เหมือนทหารยามคอยดูแลกำแพงไว้ ถ้าเกิดมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาก็จะทำการสู้รบเกิดเป็นผิวหนังอักเสบได้

ในผู้ที่มีภาวะผิวแพ้ง่าย หรือ sensitive skin เริ่มต้นจากการที่กำแพงผิวหนังเราไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดการกระตุ้นระบบประสาทรับรู้ของผิวได้ไวกว่าปกติ (การรับรู้ของผิวไม่ได้หมายถึงการแตะหรือการจับนะคะแต่หมายถึงการรับรู้ต่อสิ่งแปลกปลอมสารเคมีต่าง ๆ) เมื่อเกิดการรับรู้ไวกว่าปกติ ก็เกิดปฏิกิริยาการอักเสบได้ง่ายเกิดเป็นผิวแพ้ง่ายขึ้น
 สำหรับกำแพงผิวนั้น ถูกทำร้ายได้ด้วยหลายวิธี ทั้งโดยการขัดถูจากสารเคมี หรือจากรอยโรคเดิมของผิวหนังเองที่เป็นสาเหตุ การระบุชัดลงไปตายตัวว่าสารเคมีตัวนั้นตัวนี้หรืิอ ทรีทเม้นวิธีนั้นนี้เป็นสาเหตุทำลาย skin Barrier นั้นบอกได้ยากไม่มีหลักการตายตัว อยู่ที่ความเหมาะสมในการใช้มากกว่า เช่น น้ำดูเป็นมิตรต่อผิว แต่การล้างหน้ามาก ๆบ่อย ๆ เกินความจำเป็นก็ทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อ skin barrier ได้เช่นกัน สาเหตุของการทำลาย skin barrier ที่พอจะยกตัวอย่างได้เช่น การใช้ scrub ขัดถูหน้ามาก ๆ หรือการใช้สารเคมีลอกหน้าที่เข้มข้น เป็นสาเหตุทำลาย skin barrier หรือกำแพงผิวหนังได้เช่นกัน



การแก้ไขปัญหาผิวแพ้ง่าย

          1. เริ่มจากมาพบแพทย์ผิวหนัง โดยแพทย์ก็จะตรวจดูว่ามีสาเหตุมาจากโรคผิวหนังอื่น ๆ หรือไม่ เช่น ภูมิแพ้ เซบเดิม หรืออื่น ๆ

          2. งดใช้เครื่องสำอางทุกชนิดค่ะ ใช้ได้แต่ที่จำเป็นเช่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ให้ความชุ่มชื้น ชนิดที่ผลิตเพื่อผิวแพ้ง่าย (ไม่มีน้ำหอม สารกันเสีย)

          3. หลีกเลี่ยงสารระคายเคืองต่าง ๆ เช่น ยารักษาสิว ผลิตภัณฑ์ ทีเป็นกรดผลไม้ AHA, BHA

          4. ไม่แกะ เกา หรือถูหน้าแรง ๆ ให้ใช้ผ้านุ่ม ๆ ซับหน้า

 ข้อแนะนำในการป้องกันผิวแพ้ง่าย

          สาว ๆ คนไหนอยากมีผิวหน้าสุขภาพดีไม่ต้องรอให้ผิวแพ้ง่ายแล้วค่อยดูแลผิวหน้า ควรเริ่มดูแลตั้งแต่วันนี้เลย ห้ามแกะ เกา ถูหน้าแรง ๆ เวลาเช็ดหน้าก็ให้ซับเอา ลองคิดดูถ้าผิวหน้าเราเป็นผ้าขนหนูซักผืน ถูนั่นถูนี่สิบปียี่สิบปี ขนหลุดสีเปลี่ยนหมด แต่โชคดีที่ผิวหน้าเราธรรมชาติสร้างมาให้ทนทานกว่านั้น ขนาดถูกเช็ดถูกถูมาเป็นสามสิบสี่สิบปียังไม่ขาดไปเหมือนผ้า อย่างมากก็แค่เหี่ยวแค่ย่น ดังนั้นสุขภาพร่างกายเป็นสมบัติที่ล้ำค่าต้องคอยดูแลรักษาให้ดี

          ปฏิบัติเช่นนี้เป็นเวลา ครึ่งถึงหนึ่งปี ผิวหน้าจึงจะค่อย ๆ เริ่มใช้เครื่องสำอางได้ (ใช้หน้ามากมานานก็ต้องให้เค้าพักนานหน่อย) โดยเวลาเริ่มใช้เครื่องสำอางก็ให้ค่อย ๆ เริ่มทีละอย่างสองอย่าง ลองดูสองอาทิตย์ไม่มีปัญหาก็เริ่มเพิ่มเครื่องสำอางอีกได้ แต่อย่างไรก็ตามการใช้เครื่องสำอางค์ก็ควรใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น จะดีที่สุด

ดูข้อมูลที่ http://pannfit.blogspot.com

หรือ          http://www.pannfitskin.blogspot.com


สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่าย ที่

คุณ วราพร แคล้วศึก

เบอร์โทร 0859083178

อีเมล์pannfit@gmail.com


หน้าผากดำ คล้ำกว่าหน้า รักษายังไงดี ?




          เพราะความหมองคล้ำและผิวที่ดูกระดำกระด่างบนใบหน้า คือ ตัวการที่มักสร้างความกังวลใจกับสาว ๆ อยู่เสมอ โดยเฉพาะผิวบริเวณหน้าผาก ที่เรียกว่าเป็นจุดเด่นและจุดสำคัญบนใบหน้า หากความดำและร่องรอยจุดต่าง ๆ มาเยือนก็นับว่าเป็นอะไรที่ทำใจได้ยาก จนถึงขั้นต้องรีบหาทางออกกันแบบด่วน ๆ เลยทีเดียว สำหรับใครที่เผชิญหน้ากับปัญหานี้อยู่ กระปุกดอทคอมมีวิธีง่าย ๆ ที่มาช่วยรับมือและแก้ไขปัญหานี้มาฝากกัน ขอบอกเลยว่าวิธีแก้นั้นไม่ยุ่งยาก เพียงทำตาม ดังนี้

           
ใช้ครีมบำรุงที่ช่วยปรับสภาพผิวหมองคล้ำ

          เป็นไปได้ว่าสาว ๆ บางคนอาจมีสิวและร่องรอยจุดด่างดำต่าง ๆ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว บวกกับผิวบริเวณหน้าผากโดนแสงแดดส่องทำลายผิวหนังโดยตรง จึงทำให้หน้าผากยิ่งคล้ำและดำมากไปกว่าเดิม ดังนั้นจึงควรใส่ใจบำรุงผิวบริเวณหน้าผากให้มากขึ้น ด้วยการเลือกใช้ครีมทาหน้าที่มีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่งและครีมกันแดดที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป ทาเป็นประจำทุกเช้า เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวและปกป้องผิวไม่ให้คล้ำเสียสะสม ส่วนตอนกลางคืนให้ใช้ไนท์ครีมสูตรเข้มข้นหรือเซรั่มที่มีวิตามินซี วิตามินเอหรือเอเอชเอ ทาบริเวณหน้าผาก เพื่อช่วยปรับสภาพสีผิวของหน้าผากให้ขาวกระจ่างใส ดูสม่ำเสมอเท่ากันทั้งใบหน้า

           ครีมกันแดด...ลืมไม่ได้เด็ดขาด


          อย่างทื่รู้กันว่าอากาศบ้านเรา ไม่ว่าจะฤดูไหน ๆ ก็ไว้วางใจเรื่องแสงแดดไม่ได้ เพราะบางวันเห็นฟ้าครึ้ม ๆ เผลอแป๊บเดียวกลับแดดจ้าซะงั้น ครีมกันแดดจึงเปรียบเสมือนอาวุธคู่กายที่สาว ๆ ไม่ควรละเลยเป็นอันขาด แล้วอย่าลืมเลือกค่า SPF ให้เหมาะกับตัวเองด้วยนะจ๊ะ 

           สครับหรือมาส์กผลัดเซลล์ผิว 

          จะบำรุงให้เกิดประสิทธิภาพทั้งที งานนี้ก็ต้องจัดให้ครบทุกขั้นตอน สักหน่อย สาว ๆ ที่อยากหน้าผากขาวใสแบบประหยัด ต้องลองสครับสูตรสุมนไพรไทย เพียงนำผงขมิ้น น้ำมะขามเปียก นมสด ผสมให้เข้ากันอย่างละนิด แล้วจัดแจงพอกทิ้งไว้ 10 นาที สัปดาห์ละ 2 ครั้ง รับรองว่าเวิร์คเห็นผลชัวร์ !

           รักษาด้วยเลเซอร์กลุุ่มลดรอยดำ เพิ่มความกระจ่างใส
 
          เครื่องมือเสริมความงามยอดนิยมที่หลายต่อหลายคนเลือกใช้ ด้วยการทำเลเซอร์รักษาผิวที่มีปัญหา ความหมองคล้ำของผิว ได้แก่ การทำ IPL ,YAG LASER และการกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี เพื่อลดปัญหาความหมองคล้ำ กระตุ้นการผลัดเซลล์ใหม่ให้ขาวเนียนสดใส

           ใส่หมวกหรือกางร่มเป็นประจำ
 

          อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยปกป้องผิวบริเวณหน้าผากและใบหน้าไม่ให้หมองคล้ำได้ดี หากจำเป็นต้องเผชิญกับแสงรังสียูวีอันร้อนแรง หากคิดว่าครีมกันแดดอย่างเดียวเอาไม่อยู่ ก็รีบพกร่มและหมวกติดไว้ในกระเป๋าด่วน ๆ เลยจ้า


         
...เพียงเท่านี้ปัญหาหน้าผากดำคล้ำ ก็ไม่ใช่อุปสรรคใหญ่อีกต่อไปแล้วล่ะค่ะ 


 ดูข้อมูลที่ http://pannfit.blogspot.com

หรือ          http://www.pannfitskin.blogspot.com



สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่าย ที่

คุณ วราพร แคล้วศึก

เบอร์โทร 0859083178

อีเมล์pannfit@gmail.com